





Arista UCJ Plus เป็นอาหารเสริมที่เหมาะกับการดูแลและบำรุงกระดูกอ่อน กระดูกข้อต่อและป้องกันข้อเสื่อมโดยเฉพาะ โดยใช้นวัตกกรรม UC-II® ที่เป็น Undenature collagen Type II ที่เป็น ลิขสิทธิ์จาก Lonza ประเทศอเมริกา ที่มีผลทดสอบว่าช่วยกระตุ้นให้เซลล์กระดูกอ่อนสร้างเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ
สามารถบรรเทาอาการปวดอักเสบและเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อได้ดีมากกว่าการใช้ยา Glucosamine 1200 mg ร่วมกับ Chondroitin 1500 mg 2.7 เท่า
พร้อมประสานคุณค่าสารสกัด Curcumin C3 microencapsulation ที่ช่วยยับยั้งการอักเสบและกระตุ้นการสร้างส่วนที่เป็นเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนได้ดีมากกว่า ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นใน 15 วัน
ขนาดบรรจุ 30 Capsule ทานได้ 30 วัน
โปรโมชั่นราคาพิเศษ 750 บาท
รีวิว ประสบการณ์ดีๆ จากผู้ทานจริง




Arista UCJ Plus เป็นอาหารเสริมเพื่อการดูแลและบำรุงกระดูกอ่อน กระดูกข้อต่อ, บรรเทาและป้องกันสภาวะข้อเข่าเสื่อมที่ใช้นวัตกรรม UC-II® ที่เป็น Undenatured collagen Type II ที่เป็น ลิขสิทธิ์จาก Lonza ประเทศอเมริกา (Lonza เป็นบริษัทแม่ของ inter health เจ้าของลิขสิทธ์งานวิจัย UC-II) ที่มีผลทดสอบว่าสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนส่วนที่เป็นคอลลาเจนชนิดที่ 2, โปรติโอไกลแคน และน้ำในข้อกระดูกเพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ และลดอาการปวดอักเสบได้มากกว่าการใช้ยา Glucosamine 1200 mg ร่วมกับ Chondroitin 1500 mgในระยะเวลาที่ 30 วัน
ซึ่ง Arista UCJ Plus นอกจากจะมี UC-II® ยังประกอบไปด้วยสารสกัด Curcumin C3 microencapsulation ที่ช่วยยับยั้งการอักเสบ ได้ดีกว่าสารสกัดขมิ้นชันทั่วไปถึง 20 เท่่า และคอลลาเจนชนิดที่ 1 และคอลลาเจนชนิดที่ 2 พร้อมวิตามินซี ที่จะเป็นแหล่งการสร้างและช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์กระดูกอ่อนได้ดีมากกว่า การใช้ UC-II เพียงอย่างเดียวจนทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นใน 15 วัน
คุณประโยชน์ของการทาน Arista UCJ plusเป็นประจำ
- ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์ส่วนของเนื้อเยื่อของกระดูกอ่อนให้เพิ่มขึ้น
- ซ่อมแซมกระดูกอ่อนในส่วนที่สึกหรอที่บริเวณข้อ
- เพิ่มระดับ กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acids) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำเลี้ยงในไขข้อ
- ยับยังเอ็นไซม์ที่ยับยั้งการผลิตน้ำเลี้ยงในไขข้อ
- ลดอาการปวดอักเสบที่ข้อเข่า เพิ่มความสามารถในการเคลื่อนไหวให้ดีขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพในการยืดองศาของเข่า ให้คุณเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจ
- เพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อ ทำให้คุณเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
- ลดอาการปวดข้อเข่า ช่วยให้คุณทำกิจกรรมที่ต้องการได้โดยไม่ต้องกังวล
นวัตกรรม Arista UCJ plus
- คิดค้นวิจัยและรักษาเชิงการแพทย์ในอาสาสมัครเป็นบุคคลที่มีปัญหาด้านข้อเข่าจริงมากกว่า 2 ปี
- มีผลทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์รองรับ
- เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพ อาสาสมัครทดลองมากกว่า 97% พึงพอใจในผลลัพธ์
- ช่วยลดอาการปวดได้ดีกว่ายาแผนปัจจุบัน 2.4 เท่า (เปรียบเทียบกับการใช้ยากลูโคซามีน 1200 mg คู่กับยาคอนดรอยติน 1500 mg)
- สารสกัด UC-II ใน Arista UCJ Plus จะทำหน้าที่ออกฤทธฺ์ในการฟื้นฟูและบรรเทาอาการปวดอักเสบของข้อเข่าเสื่อม กระดูกอ่อนเสื่อม ข้อต่อเสื่อม ได้อย่างตรงจุดมากกว่า
- สารสกัดขมิ้นชันที่สกัดโดยใช้เทคโนโลยี microencapsulation นวัตกรรมจากทางอิตาลี ร่วมกับ UC-II จะช่วยยับยั้ง กระบวนการ Pro-inflammation ซึ่งจะให้ผลในการบรรเทาการอักเสบและกระตุ้นการฟื้นฟูได้มากกว่าการมากกว่าการใช้ UC-II เพียงอย่างเดียว ถึง 2 เท่า
- สารสกัด UC-II ใน Arista UCJ Plus จะช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูกระดูกอ่อนโดยกลไกการกระตุ้น Chondrocytes หรือเซลล์กระดูกอ่อน ให้มีการสังเคราะห์สร้างเซลล์ใหม่เพิ่มขึ้น (Proteoglycansและ Collagen type 2)
- สารสกัด UC-II ใน Arista UCJ Plus จะช่วยเพิ่มระดับการสังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid) ในร่างกาย ซึ่งกรดไฮยาลูโรนิคนี้ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของน้ำหล่อเลี้ยงในข้อ และยังยับยั้งการหลั่งเอนไซม์ที่ย่อยทำลายกระดูกอ่อนบริเวณข้อ จึงช่วยลดอาการปวดข้อและข้อยึดได้ ทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายดีขึ้น
- วิตามมินซี และ คอลลาเจนชนิดที่ 2 ใน Arista UCJ Plus จะช่วยยับยั้งกระบวนการที่ทำลายที่ทำลายการสร้างกระดูกอ่อนในร่างกายในร่างกาย ทำให้เซลล์กระดูกอ่อนในร่างกายสามารถสังเคราะห์เนื้อกระดูกอ่อนและน้ำในไขข้อได้อย่างสมบูรณ์ โดยสามารถเห็นผลที่แตกต่างได้ภายใน 15 วัน
- มีความปลอดภัยสูง ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หัวใจ ความดัน สามารถทานได้
- ประหยัดกว่าทานวันละ 1 แคปซูลหลังอาหารเช้า 1 กระปุกทานได้ 30 วัน
Arista UCJ Plus มีความปลอดภัยสูงและเป็น Nutrition ท่านสามารถทานได้ทุกช่วงเวลา แต่แนะนำทานช่วงหลังอาหารเช้าจะดีที่สุด
แนะนะการทานเริ่มต้น ให้ทานวันละ 2 แคปซูลในช่วง 15 วันแรก ใน 15 วันแรกอาจจะอาการจะปวดขอให้อดทนให้ผ่านพ้น 15 วันแรก เพราะ Arista UCJ plus จะเริ่มกระบวนการซ่อม ทำความสะอาดเนื้อเยื่อและกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนใหม่ ช่วงนี้แนะนำให้ทายาลดอาการอักเสบกล้ามเนื้อ หลังจาก 15วัน อาการปวดจะดีขึ้น และร่างกายจะเข้าสู่กระบวนการซ่อมแซม
การปวดจะเริ่มเกิดตั้งแต่ 2-3 วันแรก ซึ่งแล้วแต่ในแต่ละบุคลลเป็นองค์ประกอบด้วย และจะปวดต่อเนื่องประมาณ 3-5วัน ให้ทายา ประคบร้อนได้แต่จะปวดมาก (แต่จะหายเร็วเช่นกัน)
ถ้าไม่ไหว ให้หยุดชั่วคราวแล้วมันจะหายปวดเลยใน 1 วัน
พร้อมแล้วเริ่มทานต่อ อาการปวดจะมีแต่จะน้อยลงจากครั้งแรกเพราะร่างกายเริ่มซ่อมบางส่วนแล้ว
คอลลาเจนไทพ์ทู ชนิด Undenatured Type II Collagen เป็นสารสกัด Nutraceutical ที่สกัดมาจากกระดูกอ่อนบริเวณหน้าอกของไก่ (Chicken sternum cartilage) มีงานวิจัยศึกษาในระยะแรก พบว่าสามารถลดอาการอักเสบได้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคไขข้อรูมาตอยด์[10] นอกจากนี้มีการศึกษาในสัตว์ทดลองที่ป่วยเป็นข้อเข่าเสื่อมจากภาวะน้ำหนักตัวเกิน พบว่าอาการข้อเข่าเสื่อมดีขึ้นหลังจากกินสารคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) ขนาด 40 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลานาน 90 วัน แต่เมื่อหยุดกินสารคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) ภายใน 30 วัน ก็กลับมามีอาการเช่นเดิม[11] นอกจากนี้ยังมีการศึกษาฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ โดยพบว่าคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) สามารถยับยั้งการทำลายเซลล์กระดูกอ่อนบริเวณผิวข้อ โดยยับยั้งการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิด Regulatory T lymphocyte และควบคุมระดับของสาร interleukin-10 และ TGF-â ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบได้ดี จึงช่วยลดการปวดและอักเสบในผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบได้[12]
งานวิจัยของ David C. Crowley และคณะ[13] ได้ทำการศึกษาในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมจำนวน 52 คน โดยทำการเปรียบเทียบแบบสุ่มเลือกถึงประสิทธิผลการรักษาระหว่างกลุ่มที่รับประทานคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) ขนาด 40 มิลลิกรัมต่อวัน เทียบกับกลุ่มที่ได้สารสกัดสูตรผสมของ glucosamine และ chondroitin ในระยะเวลา 90 วัน พบว่าสารคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) สามารถลดอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมได้ดีกว่าถึง 33% โดยประเมินจากคะแนน Western Ontario and McMaster Universities Osteoarthritis Index (WOMAC) score เมื่อเทียบกับสารสกัดสูตรผสมของ glucosamine และ chondroitin ที่ลดอาการได้เพียง 14% เท่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่า Undenatured Type II Collagen (UC-II) ยังสามารถลดอาการปวด (visual analog scale: VAS) ได้ดีกว่าและเพิ่มประสิทธิภาพระหว่างการทำงานได้ดีกว่า (Lequesne’s functional index score) เมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทาน glucosamine และ chondroitin และยังเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมได้ดีอีกด้วย
นอกจากนี้ในปี ค.ศ. 2013 James P Lugo และคณะ[14] มีการศึกษาถึงประสิทธิผลของสารคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) ในอาสาสมัครสุขภาพดีที่ออกกำลังกายเป็นประจำแต่มีอาการเจ็บที่ข้อเข่าเฉพาะเวลาออกกำลังกายอย่างหนักเท่านั้น โดยศึกษาแบบสุ่มเลือกโดยเปรียบเทียบ 2 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มที่รับประทานคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) ขนาด 40 มิลลิกรัมต่อวัน และกลุ่มที่ได้รับยาหลอก หรือ placebo และติดตามเป็นระยะเวลา 120 วัน พบว่ากลุ่มที่รับประทานคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) มีค่าเฉลี่ยองศาของการยืดเข่าได้ดีขึ้น (average knee extension) มากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (81.0° vs. 73.2°, p = 0.002) และกลุ่มที่รับประทานคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) ยังสามารถออกกำลังกายโดยวิ่งบนลู่วิ่งปรับความชันได้เป็นระยะเวลานานกว่าก่อนที่มีอาการเจ็บหัวเข่าถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอกและแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.019) นอกจากนี้กลุ่มที่รับประทานสารคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) ยังพบว่ามีอาสาสมัครจำนวน 5 คน หรือ 18.5% ไม่มีอาการปวดเลยในขณะที่ทดสอบ และไม่พบผลข้างเคียงใด ๆ จากงานวิจัยนี้ จึงสรุปได้ว่าสารคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) ขนาด 40 มิลลิกรัมต่อวัน มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมได้ดี สามารถลดอาการอักเสบ ลดอาการปวดของข้อเข่า เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเดินได้ดีขึ้น และยังเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมได้ นอกจากนี้คอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) ยังได้ผลดีในผู้ที่ออกกำลังกาย โดยเพิ่มประสิทธิภาพในการยืดองศาของเข่าได้ดีขึ้น และเพิ่มระยะเวลาการออกกำลังกายในการวิ่งบนลู่วิ่งที่ปรับความชันได้นานกว่าก่อนที่มีอาการเจ็บถึง 2 เท่า โดยที่มีความปลอดภัยสูงและไม่มีผลข้างเคียง[14]
ล่าสุดในปี ค.ศ. 2016 มีการศึกษาของ James P Lugo และคณะ[15] ได้ทำการศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) ขนาด 40 มิลลิกรัมต่อวัน ในการบรรเทาอาการปวดและการอักเสบของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม เทียบกับกลุ่มที่รักษาด้วยสารสกัดสูตรผสมของ glucosamine ขนาด 1,500 มิลลิกรัม และ chondroitin ขนาด 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน และกลุ่มที่ได้รับยาหลอก จากการติดตามผลการรักษารวม 6 เดือน ในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมทั้งหมด 191 คน พบว่ากลุ่มที่รับประทานคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) สามารถบรรเทาอาการและลดการอักเสบของข้อเข่าเสื่อมได้ดีจากการประเมินด้วยคะแนน WOMAC score ทั้งด้านการลดอาการปวดข้อ อาการข้อเข่าติด และการใช้งานของข้อเข่า และพบว่าดีกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับสารสกัดสูตรผสมของ glucosamine และ chondroitin และกลุ่มที่ได้รับยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.04, p = 0.002 ตามลำดับ) นอกจากนี้ยังพบว่าคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) มีความปลอดภัยสูงโดยไม่พบผลข้างเคียงเลยจากงานวิจัยนี้ ซึ่งต่างจากกลุ่มที่ได้รับสารสกัดสูตรผสมของ glucosamine และ chondroitin ที่มีผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับยาถึง 25% จึงสรุปได้ว่า สารคอลลาเจนไทพ์ทู (UC-II) มีประสิทธิภาพดีในการบรรเทาอาการและลดการอักเสบของโรคข้อเข่าเสื่อมและมีความปลอดภัยสูง
อ่านงานวิจัยเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
1. Peat G, McCarney R, Croft P. Knee pain and osteoarthritis in older adults: a review of community burden and current use of primary health care. Ann Rheum Dis. 2001;60:91-7.
2. Zhang Y, Jordan JM. Epidemiology of osteoarthritis. Clin Geriatr Med. 2010;26:355-69.
3. Yoshimura N, Muraki S, Oka H, et al. Association of Knee Osteoarthritis with the Accumulation of Metabolic Risk Factors Such as Overweight, Hypertension, Dyslipidemia, and Impaired Glucose Tolerance in Japanese Men and Women: The ROAD Study. J Rheumatol. 2011;35:921-30.
4. Srikanth VK, Fryer JL, Zhai G, et al. A meta-analysis of sex differences prevalence, incidence and severity of osteoarthritis. Osteoarthritis Cartilage 2005;13:769-81.
5. Hunter DJ, Lo GH. The management of osteoarthritis: an overview and call to appropriate conservative treatment. Rheum Dis Clin North Am. 2008 Aug;34(3):689-712.
6. Ondrésik M, Azevedo Maia FR, da Silva Morais A, Gertrudes AC, Dias Bacelar AH, Correia C, Gonçalves C, Radhouani H, Amandi Sousa R, Oliveira JM, Reis RL. Management of knee osteoarthritis. Current status and future trends. Biotechnol Bioeng. 2017 Apr;114(4):717-39.
7. Reid MC, Shengelia R, Parker SJ. Pharmacologic management of osteoarthritis-related pain in older adults. Am J Nurs. 2012 Mar;112(3 Suppl 1):S38-43.
8. Musumeci G, Castrogiovanni P, Leonardi R, Trovato FM, Szychlinska MA, Di Giunta A, Loreto C, Castorina S. New perspectives for articular cartilage repair treatment through tissue engineering: A contemporary review. World J Orthop. 2014 Apr 18;5(2):80-8.
9. Van Manen MD, Nace J, Mont MA. Management of primary knee osteoarthritis and indications for total knee arthroplasty for general practitioners. J Am Osteopath Assoc. 2012 Nov;112(11):709-15. Review.
10. Barnett ML, Kremer JM, St Clair EW, Clegg DO, Furst D, Weisman M, Fletcher MJ, Chasan-Taber S, Finger E, Morales A, Le CH, Trentham DE. Treatment of rheumatoid arthritis with oral type II collagen. Results of a multicenter, double-blind, placebo-controlled trial. Arthritis Rheum. 1998 Feb;41(2):290-7. Erratum in: Arthritis Rheum 1998 May;41(5):938.
11. D’Altilio M, Peal A, Alvey M, Simms C, Curtsinger A, Gupta RC, Canerdy TD, Goad JT, Bagchi M, Bagchi D. Therapeutic Efficacy and Safety of Undenatured Type II Collagen Singly or in Combination with Glucosamine and Chondroitin in Arthritic Dogs. Toxicol Mech Methods. 2007;17(4):189-96.
12. Weiner HL, da Cunha AP, Quintana F, Wu H. Oral tolerance. Immunol Rev. 2011 May;241(1):241-59. doi: 10.1111/j.1600-065X.2011.01017.x. Review.



ในขณะที่คุณกำลังลังเล มีใครหลายคนอาการกำลังดีขึ้น โทรหาเราเพื่อปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญสิคะ
เรากล้าท้าการันตีในผลลัพธ์ไม่พอใจยินดีคืนเงิน

บทความที่จะไขความลับของ UC-II® สารสกัดที่จะช่วยบำรุงและฟื้นฟู น้ำในไขข้อเข่าเพื่อการเคลื่อนไหวที่ดีขึ้น (อ่านเพิ่มเติม...)

บทความที่จะบอกถึงสาเหตุและสภาวะของข้อเข่าที่เสื่อม ว่าเกิดจากอะไรและอะไรที่จะเป็นปัจจัยในการดูแลรักษาสุขภาพของข้อเข่า (อ่านเพิ่มเติม...)

บทความที่จะกล่าวถึงแนวทางการดูแลและส่งเสริมสุขภาพข้อเข่าและงานวิจัยใน UC-II ว่ามีความสำคัญและเกี่ยวข้องอย่างไร (อ่านเพิ่มเติม...)

บทความที่จะเจาะลึกถึงอนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีความเกี่ยวข้องกับร่างกายของเรา(อ่านเพิ่มเติม...)
Certified


- บริษัท เอ็น. เค. รอยัล เซอร์วิส จำกัด
- : 063-946-6999
- : 089-966-2536
- nkroyalservices@gmail.com