ในงานวิจัยรักษาเชิงคลินิคในปี 2018 สถาบันวิจัยทางด้านผิวหนังผนึกกำลังกับโรงพยาบาลและหน่วยงานทดสอบที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศสทั้ง 4 แห่งได้แก่ บริษัท Bionov Research, โรงพยาบาล Lariboisière Hospital, สถานบันวิจัย Intertek France Etudes Cliniques Paris และ มหาวิทยาลัย Université de Montpellier ปารีส, ฝรั่งเศส ได้สนใจและทำการศึกษาเชิงคลินิคกับ SOD C3 โดยทำการทดลองกับผู้หญิงอายุระหว่าง 18 -50 ปี จำนวน 88 คน
โดยให้งดการใช้ครีมบำรุง ครีมกันแดดและเซรั่มต่างๆ ในตลอดช่วงทำการทดลอง
โดยโดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มผู้ทดสอบ ได้แก่ 1. กลุ่มที่ไม่ได้ทานอาหารเสริม SOD C3และงดการทาครีมผสม SOD, 2. กลุ่มที่ทาครีมกันแดดที่ผสมสารสกัด SOD, 3. กลุ่มที่ให้ทาอาหารเสริม SOD C3, และกลุ่มสุดท้าย ให้ทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสม SOD C3 และทาครีมกันแดดที่ผสมสารสกัด SOD นานเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์
การทดสอบ ทดสอบด้วยการฉายรังสี UVA, UVB ที่เซลล์ผิวแล้วเพิ่มระดับจนกว่าผิวจะมีรอยแดงจากการไหม้ (MED)
วัดผลโดยการตรวจสอบสภาพผิวทุก 1, 6, 30 วัน
สรุปผลการทดสอบ คือ กลุ่มของอาสาสมัครที่ทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ SOD C3 ช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงทนต่อการทำลายของรังสี UVA,UVB ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
และเมื่อมีการนำเซลล์ผิวของอาสาสมัครมาตรวจสอบพบกว่า ในอาสาสมัครที่มีการทาน SOD C3 มีปริมาณการสร้างเม็ดสีที่น้อยกว่าอาสาสมัครที่ไม่ได้มีการทาน SOD C3 และไม่ได้ทาครีม SOD ถึง -88%
เมื่อวัดปริมาณเอ็นไซม์ที่ต้านอนุมูลอิสระในร่างกายพบว่าอาสาสมัครที่มีการทาน SOD C3 มีปริมาณ ตรวจพบว่ามีปริมาณ เอ็นไซม์ SOD, CAT (เอ็นไซม์คาตาเล็ต) และ GPx (เอ็นไซม์กูลต้าไธโอนเปอร์ออกซิเดส) ที่ต้านอนุมูลอิสระที่ผิวเพิ่มขึ้นมากกว่าอาสาสมัครที่ไม่ได้มีการทาน SOD C3 ถึง +68%
ทั้ง 3 เอ็นไซม์ที่มีระดับเพิ่มขึ้นมาในร่างกายของกลุ่มอาสาสมัครที่ทดสอบการทาน SOD C3 จะเป็น เอ็นไซม์ที่สำคัญในการลดอนุมูลอิสระในร่างกายซึ่งจะให้จะทำให้เกิดการยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว ลดการอักเสบที่ผิวและยังช่วยลดและป้องกันการเกิดฝ้า กระ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยลดอนุมูลอิสระในร่างกาย
สรุปผลการทดลองพบว่าอาสาสมัครมี
- ความแข็งแรงของผิวเพิ่มมากขึ้นทนต่อการทำร้ายของรัวสี UVA,UVB มากขึ้น
- การสร้างเม็ดสีที่เซลล์ผิว ฝ้า กระ ลดลง
- รอยแดง และ จุดด่างดำลดลง